ปวดข้อ ปวดหลังเรื้อรัง ควรพบแพทย์เมื่อไหร่? แนะนำบริการจากคลินิกกระดูก

อาการปวดข้อและปวดหลังเรื้อรังปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม

อาการ ปวดข้อ และ ปวดหลัง เป็นปัญหาที่หลายคนอาจประสบพบเจอในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุมากขึ้น การปวดอาจเกิดขึ้นจากการใช้งานข้อต่อหรือกระดูกที่มากเกินไป ซึ่งหากปล่อยไว้โดยไม่รักษาอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงตามมา เช่น ข้อเข่าเสื่อม หรือปัญหากระดูกสันหลัง ที่อาจมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในแต่ละวันได้

การ พบแพทย์ หรือ คลินิกกระดูกและข้อ จึงเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณประสบกับอาการเหล่านี้ เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของการเกิดโรคที่ต้องได้รับการรักษาโดยทันที เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

เมื่อไรถึงควรพบแพทย์?

หากคุณหรือคนในครอบครัวมีอาการปวดข้อหรือปวดหลังเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์หรือคลินิกกระดูกเมื่อมีอาการดังนี้:

  1. ปวดหลังหรือปวดข้อที่ไม่ดีขึ้น หลังจากการรักษาตัวเองที่บ้านหรือการใช้ยาลดการอักเสบทั่วไป
  2. ปวดเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือการใช้งาน เช่น การเดิน ขึ้นลงบันได หรือการยืนนานๆ
  3. มีอาการบวม แดง หรืออุณหภูมิที่สูงขึ้นบริเวณที่ปวด ซึ่งอาจแสดงถึงการอักเสบของข้อต่อหรือกระดูก
  4. การปวดรุนแรงและไม่สามารถบรรเทาได้ด้วยยา เช่น ปวดติดต่อกันหลายวัน หรือปวดในระดับที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
  5. การเคลื่อนไหวจำกัด เช่น ข้อสะโพกหรือข้อเข่ามีการเคลื่อนไหวไม่สะดวก หรือขยับได้ไม่เต็มที่
  6. มีอาการชาหรืออ่อนแรงในแขนขา โดยเฉพาะหากมีอาการปวดหลังที่บริเวณกระดูกสันหลัง

อาการที่อาจเกิดจากโรคที่ต้องรักษาโดยแพทย์

อาการปวดข้อและปวดหลังที่ไม่หายไปอาจเกิดจากสาเหตุที่ร้ายแรง เช่น:

  • ข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis): อาการปวดข้อเข่าเรื้อรังที่เกิดจากการสึกหรอของกระดูกอ่อนในข้อเข่า
  • ข้อสะโพกเสื่อม (Hip Osteoarthritis): อาการปวดข้อสะโพกที่เกิดจากการเสื่อมของกระดูกในข้อสะโพก
  • หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท: อาการปวดหลังที่เกิดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อนตัวไปกดทับเส้นประสาท
  • โรคกระดูกสันหลังเสื่อม: การเสื่อมของกระดูกสันหลังที่ทำให้มีอาการปวดหลัง และอาจทำให้มีการจำกัดการเคลื่อนไหว
  • ภาวะข้อต่ออักเสบ: การอักเสบที่เกิดขึ้นในข้อต่อ ซึ่งทำให้ปวด บวม และร้อนที่บริเวณข้อต่อ

คลินิกกระดูกและข้อ : การรักษาที่คุณไม่ควรพลาด

หากคุณมีอาการปวดข้อหรือปวดหลังเรื้อรัง และต้องการการรักษาที่ถูกต้องและปลอดภัย คลินิกหมอกัณกวี กระดูกและข้อ พร้อมให้คำปรึกษาและการรักษาครบวงจร โดยมีบริการดังนี้:

1. การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis)

  • การใช้ยา: เพื่อบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบ
  • การทำกายภาพบำบัด: เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบๆ ข้อเข่า
  • การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม: สำหรับกรณีที่ข้อเข่าเสื่อมมีอาการรุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีอื่น

2. การรักษาโรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip Osteoarthritis)

  • การใช้ยา: เพื่อบรรเทาอาการปวด
  • การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม: สำหรับผู้ที่มีข้อสะโพกเสื่อมที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีอื่น

3. การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมโดยใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด

  • ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมเพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดระยะเวลาในการฟื้นตัว

4. การรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหากระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูก

  • การรักษาด้วยวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด เช่น การทำกายภาพบำบัด
  • หากจำเป็นจะมีการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

5. การตรวจรักษาและฟื้นฟูการเคลื่อนไหว

  • การฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ

บริการของคลินิกหมอกัณกวี กระดูกและข้อ

หากคุณมีอาการปวดข้อ ปวดหลัง หรือข้ออื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน คุณสามารถปรึกษากับ คลินิกหมอกัณกวี กระดูกและข้อ ซึ่งเป็นคลินิกที่มีประสบการณ์ในการรักษาโรคกระดูกและข้ออย่างมืออาชีพ ทีมแพทย์จะช่วยให้คำแนะนำการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดสำหรับคุณ


6. สรุป : ปวดข้อ ปวดหลังเรื้อรัง ควรพบแพทย์เมื่อไหร่?

หากคุณมีอาการปวดข้อ ปวดหลังที่ไม่หายไป หรืออาการที่กล่าวถึงในข้างต้น คุณควรพบแพทย์หรือคลินิกกระดูกเพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม การพบแพทย์เร็วจะช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

สำหรับผู้ที่ต้องการ ตรวจรักษาโรคกระดูกและข้อ หรือ ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม สามารถขอคำปรึกษากับ คลินิกหมอกัณกวี กระดูกและข้อ โดยสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ 👉 www.kankaveeortho.com

👨‍⚕️ คลินิกหมอกัณกวี กระดูกและข้อ พร้อมให้บริการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และการดูแลรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ