ข้อกระดูกเสื่อมกับกระดูกพรุน ต่างกันอย่างไร? เข้าใจง่ายใน 5 นาที

หลายคนสับสนระหว่างอาการ “ข้อกระดูกเสื่อม” กับ “กระดูกพรุน” เพราะทั้งสองโรคนี้มักเกี่ยวข้องกับระบบกระดูกและพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ แต่จริง ๆ แล้วทั้งสองโรคมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งในแง่สาเหตุ อาการ และแนวทางการรักษา

บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจง่าย ๆ ภายใน 5 นาทีว่า ข้อกระดูกเสื่อมกับกระดูกพรุน ต่างกันอย่างไร? และคุณควรดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้กระดูกเสื่อมหรือพรุนก่อนวัย


✅ ข้อกระดูกเสื่อม (Osteoarthritis) คืออะไร?

ข้อกระดูกเสื่อม คือ ภาวะที่ผิวข้อหรือกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อถูกทำลาย ทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างกระดูก ส่งผลให้ปวด บวม ขัดขยับลำบาก พบได้บ่อยในข้อเข่า ข้อสะโพก และกระดูกสันหลัง

สาเหตุของข้อกระดูกเสื่อม

  • อายุที่มากขึ้น (พบมากในผู้สูงอายุ)

  • น้ำหนักตัวเกิน ทำให้ข้อรับน้ำหนักมากเกินไป

  • ใช้งานข้อซ้ำ ๆ เช่น เดิน นั่งยอง ๆ หรือยกของหนัก

  • เคยได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อ

อาการของข้อกระดูกเสื่อม

  • ปวดข้อ โดยเฉพาะเวลาขยับ

  • มีเสียง “ดังกรอบแกรบ” ในข้อ

  • ข้อฝืด ขัด เวลาขยับ

  • เดินไม่สะดวก หรือมีการโก่งงอของข้อต่อ


✅ กระดูกพรุน (Osteoporosis) คืออะไร?

กระดูกพรุน คือ ภาวะที่มวลกระดูกลดลง โครงสร้างกระดูกบางลงและเปราะหักง่าย ทั้งที่ไม่ได้มีอุบัติเหตุรุนแรง

สาเหตุของกระดูกพรุน

  • ฮอร์โมนเพศลดลง (โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน)

  • ขาดแคลเซียมและวิตามินดี

  • อายุที่มากขึ้น

  • ไม่ค่อยออกกำลังกาย

  • พฤติกรรมเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์

อาการของกระดูกพรุน

  • ไม่มีอาการในระยะแรก

  • กระดูกหักง่าย แม้แค่หกล้มเล็กน้อย

  • หลังค่อม ตัวเตี้ยลงเมื่ออายุมากขึ้น

  • ปวดหลังเรื้อรัง จากกระดูกสันหลังยุบตัว


📊 ตารางเปรียบเทียบ ข้อกระดูกเสื่อม vs กระดูกพรุน

รายละเอียดข้อกระดูกเสื่อมกระดูกพรุน
ส่วนที่เสียหายผิวข้อ / กระดูกอ่อนเนื้อกระดูกภายใน
สาเหตุหลักใช้งานข้อซ้ำ / อายุ / อ้วนฮอร์โมนลด / ขาดแคลเซียม / อายุ
อาการปวดข้อ ฝืด ขัด เดินลำบากกระดูกหักง่าย หลังค่อม
กลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุ / น้ำหนักเกินผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
แนวทางรักษากายภาพ / ยา / ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเสริมแคลเซียม / ออกกำลังกาย / ยาชะลอการสูญเสียมวลกระดูก

💡 วิธีป้องกันข้อกระดูกเสื่อมและกระดูกพรุน

  • ควบคุมน้ำหนัก ลดแรงกดบนข้อ

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ

  • รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นม ผักใบเขียว ปลาตัวเล็ก

  • เสริมวิตามินดี ด้วยการโดนแดดอ่อน ๆ ตอนเช้า

  • หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์

  • ตรวจสุขภาพกระดูกเป็นประจำ โดยเฉพาะเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป


📌 สรุป

ข้อกระดูกเสื่อม คือโรคของข้อต่อที่เสื่อมจากการใช้งาน ส่วน กระดูกพรุน คือโรคที่เนื้อกระดูกบางลง เปราะและหักง่าย ทั้งสองโรคมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ส่งผลเสียต่อการเคลื่อนไหวและคุณภาพชีวิตได้เหมือนกัน

ใครที่เริ่มมีอาการปวดข้อ เดินลำบาก หรือกังวลเรื่องกระดูกหักง่าย ควรรีบปรึกษาแพทย์กระดูก เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างเหมาะสมแต่เนิ่น ๆ

แนะนำคลินิกรักษาข้อเข่าเทียม  www.kankaveeortho.com