โรคกระดูกพรุน : สาเหตุ อาการ และการป้องกัน

โรคกระดูกพรุน : สาเหตุ อาการ และการป้องกัน

โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) เป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในผู้หญิงหลังวัยหมดประจำเดือน แต่ความจริงแล้ว โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยหากละเลยการดูแลสุขภาพกระดูก โรคกระดูกพรุนเป็นภาวะที่ ความหนาแน่นของกระดูกลดลง ทำให้กระดูกเปราะ บาง และหักง่ายกว่าปกติ

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุ อาการ และวิธีป้องกันโรคกระดูกพรุนจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและคงสุขภาพกระดูกที่แข็งแรงตลอดชีวิต


โรคกระดูกพรุนคืออะไร?

กระดูกของคนเรามีการสร้างและสลายอยู่ตลอดเวลา หากสมดุลนี้เสียไป เช่น การสลายกระดูกมากกว่าการสร้างกระดูก จะทำให้กระดูกสูญเสียมวลและความหนาแน่น ส่งผลให้เกิดโรคกระดูกพรุน


สาเหตุของโรคกระดูกพรุน

  1. อายุที่เพิ่มขึ้น

    • เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกจะสูญเสียมวลกระดูกตามธรรมชาติ

  2. ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง

    • ผู้หญิงหลังวัยหมดประจำเดือน ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ทำให้กระดูกบางเร็ว

    • ผู้ชายที่ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำก็มีความเสี่ยงเช่นกัน

  3. พันธุกรรมและเชื้อชาติ

    • มีประวัติครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน

    • ชาวเอเชียและคนรูปร่างเล็กมีโอกาสเสี่ยงมากกว่า

  4. พฤติกรรมการใช้ชีวิต

    • การขาดการออกกำลังกาย

    • การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์

    • การบริโภคแคลเซียมและวิตามินดีไม่เพียงพอ

  5. การใช้ยาบางชนิด

    • ยาสเตียรอยด์หรือยาที่มีผลต่อสมดุลแคลเซียม

  6. โรคประจำตัว

    • โรคไทรอยด์ เบาหวาน หรือโรคไตบางชนิด


อาการของโรคกระดูกพรุน

โรคกระดูกพรุนมักไม่แสดงอาการชัดเจนในระยะแรก ทำให้หลายคนไม่รู้ตัว จนกว่าจะเกิดภาวะกระดูกหัก อาการที่พบได้ เช่น

  • กระดูกหักง่าย แม้เพียงการหกล้มเล็กน้อย

  • ปวดหลังเรื้อรังจากกระดูกสันหลังยุบตัว

  • หลังค่อม ไหล่งุ้ม หรือรูปร่างเตี้ยลง

  • เคลื่อนไหวลำบาก ความมั่นคงในการเดินลดลง


การป้องกันโรคกระดูกพรุน

1. โภชนาการที่เหมาะสม

  • รับประทานอาหารที่มี แคลเซียมสูง เช่น นม โยเกิร์ต ชีส ปลาเล็กปลาน้อย งาดำ และผักใบเขียว

  • เสริม วิตามินดี จากแสงแดดยามเช้า 10–15 นาทีต่อวัน หรืออาหาร เช่น ไข่แดง ปลาแซลมอน

2. การออกกำลังกาย

  • เลือกการออกกำลังกายที่ลงน้ำหนัก เช่น เดิน วิ่งเบา ๆ เต้นแอโรบิก หรือยกน้ำหนัก

  • ช่วยกระตุ้นการสร้างมวลกระดูกและเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

3. เลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง

  • งดสูบบุหรี่และลดการดื่มแอลกอฮอล์

  • ลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง เช่น กาแฟ น้ำอัดลม

4. ตรวจสุขภาพกระดูก

  • ผู้หญิงอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีความเสี่ยง ควรตรวจวัดความหนาแน่นของมวลกระดูก (Bone Density Test)

  • พบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำการดูแลและการใช้ยาที่เหมาะสม

5. ดูแลบ้านให้ปลอดภัย

  • เพื่อลดโอกาสการหกล้ม ควรจัดบ้านให้โล่ง ไม่วางสิ่งกีดขวาง และใช้ราวจับในห้องน้ำหรือบันได


สรุป

โรคกระดูกพรุน เป็นภาวะสุขภาพที่อันตราย เพราะมักไม่แสดงอาการจนกว่าจะสายเกินไป แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลตนเองตั้งแต่วัยหนุ่มสาว เช่น กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับแสงแดด และตรวจสุขภาพกระดูกอย่างสม่ำเสมอ

✨ การใส่ใจสุขภาพกระดูกตั้งแต่วันนี้ คือการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตที่แข็งแรง ยืนยาว และปราศจากความเสี่ยงจากกระดูกหักในอนาคต

แนะนำเว็บไซต์ www.kankaveeortho.com สำหรับคนที่ต้องการปรึกษาคลินิกกระดูก