การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม

(Total Knee Replacement)

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม

เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษา มีจุดประสงค์เพื่อลดความเจ็บปวดบริเวณข้อเข่าของคนไข้ ช่วยให้คนไข้กลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างดี ใกล้เคียงกับปกติมากที่สุด โดยหมอจะพิจารณาผ่าตัดข้อเข่าเทียมหลังจากที่การรักษาแบบอนุรักษ์นิยมที่มีตั้งแต่การลดน้ำหนัก การออกกำลังกาย เพื่อสร้างกล้ามเนื้อต้นขา

รวมไปถึงการรับประทานยาแก้ปวดที่ไม่สามารถทำให้คนไข้กลับมาใช้งานดีดังเดิมได้ ทั้งนี้ การรักษาแบบอนุรักษ์นิยม หรือแบบไม่ผ่าตัด ผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของคนไข้แต่ละคนเช่นกัน

อาการของโรคข้อเข่าเสื่อม

     ข้อเข่าเสื่อมเกิดจากการที่กระดูกผิดรูป กระดูกอ่อนสึกหรอและทำลาย ทำให้กลไกของข้อเข่าเสีย ไม่สามารถกระจายแรงที่รับน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระดูกข้อเข่าบางส่วนจึงต้องรับน้ำหนักเยอะกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการข้อเข่าเสื่อมตามมาได้ คนไข้จะรู้สึกเจ็บบริเวณข้อเข่า และเกิดเสียงดังในข้อเข่าเมื่อยืนหรือนั่ง มักเกิดกับคนไข้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป รักษาได้ด้วยการลดน้ำหนัก การออกกำลังกาย เพื่อสร้างกล้ามเนื้อต้นขา รวมไปถึงการรับประทานยาแก้ปวด แต่ถ้าหากไม่ดีขึ้น หมอจะแนะนำให้ผ่าตัดรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม และการเปลี่ยนข้อเข่าเทียม

ข้อเข่าเทียมทำมาจากอะไร

        อุปกรณ์ข้อเข่าเทียม ทำมาจากวัสดุเดียวกันคือ โลหะอัลลอยด์ และแผ่นรอง Polyethylene ที่กั้นระหว่างโลหะ แต่จะมีดีไซน์ที่แตกต่างกัน โดยดีไซน์ของข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ? ดังนี้

  • ข้อเข่าเทียมสำหรับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมทั้งหมด (TKA) จะเป็นแผ่นรองแบบเคลื่อนไหวไม่ได้
  • ดีไซน์สำหรับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมบางส่วน (UKA) จะมีทั้งแผ่นรองที่เคลื่อนไหวได้  และแผ่นรองแบบเคลื่อนไหวไม่ได้

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัด เปลี่ยนข้อเข่าและสะโพกเทียม

" ผมอยากให้คนพะเยาได้รับการรักษาที่ที่สุด : หมอยิ่ง"

สิ่งที่ควรตรวจก่อนเข้ารับการรักษาเข่า ได้แก่

  • ประวัติสุขภาพทั้งหมด อาการ ลักษณะการปวดเข่า และความสามารถในการใช้งานของเข่า
  • ตรวจร่างกาย ตรวจการทำงานของเข่า ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบ ๆ เข่าและความแข็งแรงของเอ็นรอบ ๆ  เข่า
  • X-Ray เพื่อดูพยาธิสภาพ ความเสียหายของเข่า
  • บางครั้งอาจต้องมีการตรวจเลือด X-Ray พิเศษ หรือตรวจ MRI เพื่อดูสภาพของกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อต่าง ๆ  รอบกระดูก

   ผลการรักษาโดยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมมากกว่า 90% ของผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมจะรู้สึกเจ็บปวดลดลง และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ใกล้เคียงกับปกติ กิจกรรมควรเลี่ยงหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ได้แก่ กีฬาที่มีแรงกระแทกรุนแรงที่ข้อเข่า เช่น การวิ่งหรือกระโดด ซึ่งแรงกระแทกจะทำให้ส่วนที่เป็นพลาสติกเสื่อมสภาพเร็วขึ้น การนั่งคุกเข่า นั่งยอง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนั่งส้วมแบบนั่งยองๆ ควรหลีกเลี่ยงเด็ดขาด

ผู้ป่วยที่เหมาะกับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม

  1. ปวดเข่ามากจนทำให้ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เช่น ปวดมากเวลาเดิน ขึ้นลงบันได ลุกหรือนั่ง
  2. ปวดเข่าเวลาพัก เช่น ปวดเวลานอน
  3. มีการอักเสบบวมแดงของเข่า โดยมีอาการบ่อยและเรื้อรัง
  4. มีการผิดรูปของเข่า เช่น เข่าโค้งออก หรือเกเข้าใน ฯลฯ
  5. ขยับเข่าติดขัดลำบาก งอ หรือเหยียดเข่าลำบาก
  6. ใช้การรักษาแบบอื่น เช่น เปลี่ยนวิธีการใช้งาน ยาทาน หรือการฉีดยาเข้าในเข่าไม่ได้ผล ฯลฯ

  ส่วนใหญ่การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมจะทำในผู้ป่วยอายุ 60 – 80 ปี การพิจารณาผ่าตัดจะพิจารณาเป็นราย ๆ ไปขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของโรค

การผ่าตัดแบบเฉพาะสรีระของแต่ละบุคคล( Personalized Alignment Total Knee Replacement)

  • เปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมแบบบางส่วน Unicompartmental Knee Arthroplasty (UKA)
  • การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมทั้งหมด (Total Knee Arthroplasty)