ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมโดยใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมด้วยการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด
(Robotic Knee Replacement)

การใช้หุ่นยนต์มาช่วยในการผ่าตัด คือ หุ่นยนต์จะมีหน้าที่ในการควบคุมมุมการตัด โดยที่การเลือกมุมการตัดก็ยังคงเป็นหน้าที่ของแพทย์ ทางแพทย์ผู้ผ่าตัดยังคงมีหน้าที่ในการทำการผ่าตัดคนไข้ แต่ตัวหุ่นยนต์จะช่วยในการจับวัด เพราะฉะนั้นความละเอียดในการผ่าตัดจะค่อนข้างที่จะสูงกว่าการใช้ตามองหรือการวัดโดยการใช้ไม้บรรทัดวัดในการผ่าตัดความแม่นยำสูง

การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดด้วยการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด
(Robotic Knee Replacement)

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดในส่วนของการผ่าตัดโดยใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมไม่ได้แตกต่างจากวิธีการผ่าตัดแบบเทคนิคปกติ
โดยปกติแล้วผู้ป่วยก็จะต้องมีการตรวจความพร้อมของร่างกาย คือ

     ☑ ตรวจการทำงานของหัวใจ ซึ่งในปัจจุบันเราก็พบว่าอายุอาจจะไม่ได้เป็นเกณฑ์หลักที่เราจะตัดสินใจเลือกผ่าตัดหรือไม่ผ่าตัดในกลุ่มของการเปลี่ยนข้อเข่าเทียม แต่จะดูฟังก์ชันการทำงานของหัวใจจากการทำอัลตร้าซาวด์ของหัวใจเป็นหลักว่าผู้ป่วยมีฟังก์ชันการทำงานของหัวใจที่ดีหรือไม่ สามารถที่จะเข้ารับการผ่าตัดได้หรือไม่

     ☑ ตรวจการทำงานของปอด

     ☑ ตรวจค่าเลือดต่างๆ ในร่างกาย

     ☑ การทำกายภาพก่อนการเข้ารับการผ่าตัด

     ☑ การคุมน้ำหนัก เพื่อที่จะช่วยให้ผู้สามารถฟื้นตัวได้ไวหลังจากการเข้ารับการผ่าตัด

การดูแลรักษาตัวและติดตามอาการหลังจากการผ่าตัด

  ในระหว่างที่พักรักษาตัวอยู่ รพ. ทางทีมแพทย์ก็จะดูแลในเรื่อง

  • การระงับอาการปวดหลังจากการผ่าตัด ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีการระงับการปวดหลังผ่าตัดที่ทางทีมแพทย์ผ่าตัดทำร่วมกันกับทางทีมวิสัญญีแพทย์ ก็จะสามารถควบคุมระดับอาการปวดของผู้ป่วย ได้ในระดับ 0 – 3 คะแนน (ระดับการปวดที่มากที่สุดก็คือ 10 คะแนน น้อยสุดก็คือ 0 คะแนน)
  • การฝึกกายภาพบำบัด ในขณะที่ผู้ป่วยนอนพักรักษาตัวอยู่ รพ. ซึ่งผู้ป่วยจะสามารถกลับบ้านได้ก็ต่อเมื่อผู้ป่วยสามารถเดินโดยใช้ไม้เท้าหรือวอคเกอร์ได้ สามารถเดินได้ตัวเอง สามารถช่วยเหลือตัวเองในการเข้าห้องน้ำ ลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ ผู้ป่วยจะต้องสามารถเหยียดข้อเข่าได้สุดอยู่ที่ประมาณ 0 องศา และงอเข่าได้มากว่า 90 องศา ได้ ซึ่งหลังจากการผ่าตัดในช่วงแรกการทำกายภาพบำบัดเป็นสิ่งสำคัญที่แพทย์มักจะแนะนำผู้ป่วยให้ไปทำต่อที่บ้าน ภายใน 3 เดือน การฟื้นฟูกำลังของกล้ามเนื้อรอบเข่าจะเต็มที่ จะสามารถช่วยลดการหกล้มได้
  • แผลผ่าตัด หลังจากที่ผู้ป่วยกลับบ้านไปแล้ว แพทย์จะนัดติดตามอาการผู้ป่วยเพื่อดูในเรื่องของตัวแผลผ่าตัด ซึ่งส่วนมากแผลผ่าตัดภายนอกเราจะพบว่าภายใน 2 อาทิตย์แผลผ่าตัดจะต้องหายไป และสามารถกลับไปอาบน้ำใช้ชีวิตประจำวันได้
  • การลดอาการอักเสบ เนื่องจากการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม จะมีการตัดผิวกระดูกแพทย์ก็จะมีการติดตามอาการอักเสบในข้อ ซึ่งการลดอาการอักเสบในช่วงแรกก็จะแนะนำให้ผู้ป่วยประคบเย็นในช่วง 2 สัปดาห์ – 1 เดือนแรก หลังจากนั้นก็จะแนะนำให้ผู้ป่วยประคบอุ่นเพื่อให้เอ็นรอบๆ ข้อ รอบกล้ามเนื้อรอบๆ มีการคลายตัวได้มากขึ้น ระยะการเคลื่อนไหวก็จะดีมากขึ้น

คลินิกหมอกัณกวี กระดูกและข้อ

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
ด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด

ข้อดีของการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมโดยใช้หุ่นยนต์

   ข้อดีของการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมโดยใช้หุ่นยนต์ ช่วยอีกอย่างก็คือศัลยแพทย์ไม่จำเป็นต้องเจาะกระดูกบริเวณส่วนปลายของกระดูกต้นขาเพื่อหาตำแหน่งที่เหมาะสมในการวางข้อเทียม การเจาะกระดูกบริเวณนี้ซึ่งมีความจำเป็นในการผ่าตัดแบบเดิม เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้เลือดออกมากหลังผ่าตัด

   นอกเหนือจากข้อดีที่ได้แจกแจงไปแล้ว (แผลผ่าตัดเล็กลง ลดความเสียหายเนื้อเยื่อ และเลือดออกน้อยลง) การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมโดยใช้หุ่นยนต์ช่วยยังช่วยลดความเจ็บปวดหลังการผ่าตัด ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ป่วยต้องทนรับมาโดยตลอด

ความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดที่น้อยลงทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น สามารถเดินได้ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการผ่าตัดโดยใช้ยาแก้ปวดเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมโดยใช้หุ่นยนต์นั้น มีข้อจำกัด 2 ประการ ได้แก่

     ☒ ราคาที่สูง เมื่อเทียบกับการผ่าตัดแบบเดิม

     ☒ ศัลย์แพทย์ที่มีความชำนาญในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมโดยใช้หุ่นยนต์มีจำนวนน้อย

   ในอนาคตหากมีการฝึกศัลยแพทย์ให้มีความรู้ความสามารถในการผ่าตัดโดยวิธีนี้มากขึ้นและการผ่าตัดวิธีนี้แพร่หลายมากขึ้น น่าจะทำให้ราคาในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมโดยใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดมีราคาที่ถูกลง จับต้องได้

ข้อเข่าเทียมมีโอกาสที่จะหลุดหรือไม่

ข้อเข่าเทียมมีโอกาสที่จะหลุดได้ 2 กรณี ดังนี้
1. กรณีที่มีการผ่าตัดวางตำแหน่งข้อเข่าเทียมที่ไม่ถูกต้อง
เป็นกรณีที่มีการผ่าตัดแล้วก็เลือกการความสัมพันธ์ระหว่างเส้นเอ็นของคนไข้ในท่าเหยียดกับท่างอที่ไม่สัมพันธ์กัน
2. กรณีที่คนไข้ได้รับอุบัติเหตุ เช่น หกล้ม แล้วเกิดการฉีกขาดของเส้นเอ็นรอบๆข้อ ก็อาจจะส่งผลให้เกิดภาวะข้อเข่าเทียมหลุดได้

 อย่างไรก็ตาม การลดความเสี่ยงหรือการชะลอในการเกิดภาวะโรคข้อเข่าเสื่อมเริ่มต้นได้จากการควบคุมน้ำหนัก หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีผลต่อข้อเข่า เช่น การเล่นกีฬาที่มีการกระแทกต่อข้อเข่า การงอเหยียดข้อเข่าในมุมที่มาก ๆ ที่อาจจะกระตุ้นให้เกิดภาวะข้อเข่าเสื่อมได้ แต่หากมีอาการปวดข้อเข่า ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจประเมินและวินิจฉัย เพื่อที่จะช่วยคืนคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้ป่วยหลังจากการเข้ารับรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด